วันนี้เรามีเทคนิคการแกะสลัก ผักและผลไม้มาฝากกันนะค่ะ ลองมาดูกันเลยค่ะ ^^
เทคนิคการแกะสลัก
แครอท ก่อนจะนำไปแกะสลักไม่ควรแช่น้ำ เพราะ เนื้อจะแข็งจะทำให้แกะยาก เมื่อแกะสลักเสร็จนำไปแช่น้ำ กลีบจะแข็งอยู่ตัว สีสด
ขิง เมื่อแกะสลักเสร็จนำไปแช่น้ำผสมน้ำมะนาวสักครู่ จะเปลี่ยนเป็นสีชมพูสวย
เผือก ควรล้างทั้งเผือกแล้วผึ่งให้แห้งก่อนปลอกเปลือก และแกะสลัก เพราะถ้าน้ำเผือกมาล้างน้ำหลังจากปลอกเปลือกจะมีเมือกและคันมือ เมื่อแกะสลักแล้ว ล้างด้วยน้ำผสมสารส้มเจือจาง หรือน้ำมะขามเปียก เผือกจะมีสีขาวสวย
หัวไชเท้า เมื่อแกะสลักเสร็จให้แช่น้ำเย็นจัดจะสดนาน
ฟักทอง เมื่อแกะสลักเสร็จแล้วไม่ควรแช่น้ำ เพราะ ฟักทองจะเปลี่ยนสี เน่าเร็ว ให้ใช้ผ้าขาวบางชุบน้ำบิดหมาดๆคลุมไว้ หรือนำไปแช่ตู้เย็น
หอมแดงและหอมใหญ่ ในขณะที่ปอกและแกะสลัก จะมีสารระเหยออกมาทำให้แสบตา ต้องนำไปแช่น้ำก่อน
บีทรูท เมื่อปลอกเปลือกแล้วควรล้างด้วยน้ำเกลือเจือจางก่อน เพื่อไม่ให้สีตกออกมามากเกินไป ถ้าทิ้งไว้จะดำ ควรฉีดน้ำอยู่เสมอ
การดูแลและเก็บรักษาดอกไม้แกะสลักจากผักและผลไม้
การ ดูแลและเก็บรักษาดอกไม้แกะสลักจากผักและผลไม้ก็มีวิธีการดูแลโดยทั่วไป เหมือนกับการแกะสลักใบไม้ ดังได้กล่าวไว้แล้ว แต่มีข้อควรปฏิบัติเพิ่มเติมอีกบางส่วนเนื่องจากการแกะสลักดอกไม้มักจะใช้ ผัก และผลไม้ที่หลากหลายชนิดซึ่งบางชนิดอาจจะมีข้อจำกัดอยู่บ้าง จึงมีวิธีการดูแลลักษณะเฉพาะของผักและผลไม้แต่ละชนิด เช่น
1. แครอท หัวบีต เมื่อแกะสลักเสร็จแล้วไม่ควรแช่น้ำ เพราะเม็ดสีละลายน้ำได้ดี สีของผักจะซีด
2. เผือก ควรล้างน้ำทั้งเปลือก ผึ่งให้แห้งแล้วปอกเปลือกเกลาให้เรียบ และในขณะที่แกะสลักไม่ควรล้างน้ำ เพราะทำให้เป็นเมือกและคัน เมื่อแกะสลักเสร็จแล้วนำไปล้างน้ำผสมสารส้มเจือจาง จะทำให้เผือกมีสีขาวขึ้น
3. ฟักทอง ก่อนใช้แกะสลักต้องล้างให้หมดยางก่อน แต่ไม่ควรแช่น้ำเพราะฟักทองจะเปื่อยและเมื่อแกะสลักแล้วปลายกลีบมีสีขาว
4. ชมพู่ ในขณะแกะสลักไม่ควรแช่น้ำจะเป็นขุย แกะเสร็จล้างน้ำมะนาวเจือจางแล้วล้างน้ำเย็น